เรื่องภาระดีเกี่ยวกับฉัน

wellcome to my ..................

wellcome to my ..................
hope you will .....................

คลังบทความของบล็อก

lonely on the beach

lonely on the beach
lonely is my life

วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ในทัศนะของผม .....ดนตรี ศิลปะจะบ่งบอก สภาวะ สถาณการณ์ ในแต่ละยุคสมัย


ศิลปะที่เป็นที่นิยม ในยุคสมัยนั้นๆ .....ก็จะเป็นตัวบอกวัด ว่าคนในยุคสมัย ในภูมิประเทศนั้นๆ นั้น คิดอ่าน มีนิสัย ความเป็นอยู่เช่นไร


ดนตรีที่ซับซ้อน หรือ ที่ต้องอาศัย การใช้วลา ในการเข้าใจ รับการสื่อสาร ในจินตนาการ ที่มีความลึกซึ้งของความถี่เสียง จังหวะจะโคนต่างๆ จะมีความนิยม ที่ลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ตามยุคสมัย

โดยที่มีเวลา เป็นจำกัดในทุกๆสิ่ง มีผลส่งต่อกระทบมายังความลึกซึ้ง ในการรียนรู้ รับรู้สาร ที่ศิลปินสื่อสารนำเสนอ

ไม่มีความหวังใดๆ ในการพัฒนาศิลปะที่ละเอียดอ่อน ในประเทศด้อยพัฒนา การศึกษาต่ำ ในประเทศที่มีสถิติ การอ่านหนังสือ เฉลี่ยต่อคน เพียงไม่กี่บรรทัด สภาพเศรฐกิจย่ำแย่ ปากกัดตีนถีบ อัตราเฉลี่ย สถิติแย่ๆแง่มุมต่างๆเพิ่มขึ้นตลอดเวลา


ในทัศนะของผม คิดว่าสิ่งที่มีอิทธิพล อย่างมากต่อศิลปะ คือ ...การศึกษา

การศึกษามีผลส่งผลต่อ การเข้าใจ เข้าถึงการเสพศิลปะ และ ดนตรี เป็นอย่างมาก แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด


ศิลปะ คือ..เรื่องของ ประสพการณ์ การเรียนรู้ซึมซับ เข้าใจ และคลี่คลาย

มันคือ การถ่ายทอดองค์ความรู้หนึ่งไปสู่ สังคม ถึงผู้รับสาร

***ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องอาศัยความรู้ และ ประสพการณ์ ที่จะนำสู่ความเข้าใจ***

ทีนี้เรามามองสิ่งที่สังคมกำลังได้รับมาจากยุคสมัย ซึ่งมีผลแน่นอนกับ ศิลปะ และ ดนตรีแง่การสร้างงาน ศิลปะ และ ดนตรีเชิงธุรกิจในบางครั้ง การเสี่ยงทำในสิ่งใหม่ หรือ แตกต่าง ในทิศทางกระแสตลาด ก็นับเป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง

เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบ ต่อผลตอบแทนในการประกอบการดนตรี ที่ขายได้ ในเนื้อหา รูปแบบภาพพจน์ ที่เคยทำกันมา และ ถูกทำซ้ำซาก อย่างต่อเนื่อง

ก็คือ สิ่งที่ทำมาตอบสนอง กลุ่มลูกค้า ซึ่งก็ไม่มีทางเลือกมากเช่นกันที่จะเดินหนี หลบหลีก สรรหาค้นพบความงาม ทางศิลปะ ที่ตัวเค้าต้องการอย่างแท้จริง



แง่พฤติกรรมผู้บริโภคความง่ายในการ ส่งผ่านข้อมูล การหางานดนตรีต่างๆฟังได้ ลบทิ้ง เปลี่ยนแปลงอย่าง่ายดาย ไม่ว่าจะใช้ internet ซื้อเครื่องเล่น mp3 เครื่องไม่กี่ร้อยบาท มาเพื่อที่จะมีเรื่องคุยเรื่องเดียวกัน รับการบ่มเพาะรสนิยมมาทางอ้อมเหมือนกัน

จริงอยู่ แง่นึง คือ จะมีข้อมูลต่างๆเข้ามาอย่างมากมาย แต่ ในแง่ของศิลปิน ทำงานแล้วไม่ได้รับผลตอบแทนเท่าที่ควร ก็ส่งผลกระทบ ให้คนสร้างงานต่างๆ มีความเดือดร้อนในความเป็นอยู่

ดังนั้น กลับมาที่แง่การสร้างงาน จึงทำให้ผู้สร้าง ทำยังไงก็ได้ ให้เพลงดัง เพื่อหวังมาขายงาน การแสดงตามที่ต่างๆ กับคนหมู่มาก ที่มีการศึกษา รสนิยม ชีวิตที่ถูกขีดมาให้ได้รับได้รู้เท่านี้ เค้าจึงต้องทำงานออกมาแบบนี้



เคยสังเกตุไม้ครับ.... ว่า ทำไมเวลาดูหนัง ฟังเพลง พวกคุณจึง ต้องไปดูหนังฝรั่ง ฟังเพลงต่างชาติ

คำตอบง่ายดาย .....ธุรกิจหนัง ดนตรีโดยมากที่เป็นอยู่ในบ้านเรา

เค้าทำงานมา รับสนองคนหมู่มาก ซึ่งการศึกษา ความรู้ รสนิยม อยู่ในที่ๆท่านต้องเข้าใจ

ขอใช้คำว่า จำกัดจำเขี่ยน่าเห็นใจ และ น่าหดหู่ในเวลาเดียวกัน

ที่ไม่สามารถแยก สุนทรียะ แห่งเสียง แห่งศิลปะ ออกจากธุรกิจการค้าได้



**จะไปเป็นลาวโดดเด่น....ดังความฝัน **
หรือ อะไรนั่นแหละ ที่ฟังแล้วขนลุกทุกครั้ง ที่คนตามไปหลงรักทั้งเมือง มีจุดร่วมให้คิดในสิ่งเดียวกัน จริงๆน่าจะร้องว่า

**จะไปเป็น สินค้า นายทุน หลอกตังค์กัน.**......**.smsนั้น เชียร์กัน นายทุนรวย**

มันก็บอกแล้ว ว่า...... เราจะต้องอยู่กันอย่างไร หายใจแบบไหน บนที่แห่งนี้


ในยุคสมัยทุนนิยม ที่มีนายทุน หรือ ผู้ประกอบการ ต้องการนำเสนอ ทิศทางชี้นำความต้องการ ของการเสพสื่อ ศิลปะต่างๆ รวมทั้งดนตรี เพื่อ ชนหมู่มาก คิด เสพ บริโภค สิ่งต่างๆที่พวกเค้าจะยัดเยียดเข้ามา


โดยการยึดครองโดยสื่อ


จริงๆแล้ว มันคือสินค้าชนิดนึง อย่าเอา ศิลปะวิจารณ์ มาวิพากษ์ สิ่งที่ไม่ใช่ศิลปะ

อาจกล่าวแรงไป .........เราอาจเรียกมันว่า

***สิ่งที่มีคุณค่าทางศิลปะต่ำ****



การที่คนป่วยๆเช่นผม มาใช้เวลาจิ้มพิมพ์ ทีละนิ้ว อย่างงกๆเงิ่นๆ มันก็เป็นแค่ หน้าอะไรหน้านึง ซึ่งมีตัวหนังสือน่ารำคาญ ยั้วเยี้ย ควรละสายตามองผ่าน กดให้มันผ่านไปโดยเร็วที่สุด

**จริงๆแล้ว นี่คือศิลปะในการคิด และ แสดงทัศนะคติ**

ที่ก็ถูกเมินมองไปเช่นกัน เหมือนกับดนตรีที่มีความละเอียดอ่อน
แต่คนหมู่มาก ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับมัน




ด้วยความเคารพครับ จากใจจริง ว่าจะไม่คิดเห็นอะไรแล้วนะ -


ขอโทษหากไม่ถูกใจใครขอบคุณที่สละเวลาอ่านครับรับ






ผิดชอบทุกอักษร

โดย หัทยา สงวนสิน

ไม่มีความคิดเห็น:

เข้าใจ เเละ ยอมรับ

hattaya111 เขียน:

15.11 เมฆครึ้มทั่วฟ้า มาหลายชั่วโมง ....

คงนับถอยหลัง รอเวลาเลิกงาน น้ำเเห่งฟ้า จะส่งทอดตัวสู่พสุธา

หลายๆคน คงรำคาญ ตั้งคำถามต่อธรรมชาติว่า ....... ทำไม

ทำไมต้องเวลานี้ อะไรนักหนา ไร่นาไม่ไปตก เวลานี้จะกลับบ้าน



มนุษย์ตัวเล็กๆ ที่ชอบอ้างตนเป็นจ้าว เป็นผู้ครอบครองทุกสรรพสิ่ง

ไม่ว่าเเต่ภูเขา ทะเลกว้าง ดวงดาว ยังจะริไปจับจองยึดครอง

มนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้ มักกล่าวอ้างโทษต่อสิ่งที่เค้าควบคุมไม่ได้

ว่า...
ไม่ถูกต้อง เพราะไม่เป็นตามประสงค์ของพวกเขา



จริงๆสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่างล้วนดีเเล้ว อย่าไปสงสัย อย่าไปค้นหาคำตอบอะไรให้มากเกินไปนัก

คำว่าทำไม บางทีก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ให้พร่ำเพร่อ

เปลี่ยนเป็น ยอมรับ
ด้วยความเข้าใจดีกว่า....ว่า

มันก็เป็นเช่นนั้นเเหละ มันก็เป็นเช่นนั้นเอง

ซึ่งผมเป็นมนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่มานาน เกรกมะเหรก เกเร กับสิ่งเเวดล้อมต่างๆ ทั้งมีจิตใจ เเละ อื่นๆอีกมากมาย

จนมาตบท้ายความคิด ได้พบประโยคที่เเสนเรียบง่ายนี้ จากท่านพุธทาสภิขุ

เเละ อีกคำนึงที่เรียบง่ายของชื่อเพลงๆนึงของพี่ชายที่ผมนับถือ

เพลงชื่อ เข้าใจเเละยอมรับ
http://widewonderland.blogspot.com/ ลองดูที่นี่ ตรงหัวข้อSaturday, October 20, 2007จากเพื่อนคนหนึ่ง..

เผอิญหาคำนี้ดูใน google ...
เข้าใจเเละยอมรับ armchair...


เจอตรงนี้ เลยเอามาฝาก

นับว่าเเปลกมากจนตอนนี้ ผ่านพ้นเวลา ที่ฝนเพิ่งผ่านฟ้าไป .....

ฟ้าหลังฝน มีเเดดบางๆ ช่างสบายตา


ความจริง..เรื่องราวรอบกาย บางครั้งก็ง่ายนิดเดียว